10 Things You Didn’t Know About Attending and Speaking at Design Conferences 🎤✨
สวัสดีค่าา UX Designers ทุกคน! 🎉 ใครที่เป็นสายชอบอัพสกิล ชอบเจอคนใหม่ๆ หรืออยากมีชื่อเสียงในวงการ UX Design เคยคิดไหมว่าการไปร่วมงาน Design Conference มันไม่ได้เป็นแค่การนั่งฟัง Keynote เท่ๆ แต่จริงๆ มันคือโอกาสที่จะเปลี่ยนชีวิตการทำงานของคุณได้เลยนะ!
วันนี้เรามาเจาะลึกเกี่ยวกับการไปร่วมและการเป็น Speaker ในงาน Design Conference ว่ามันช่วยอะไรเราได้บ้าง ทั้งในมุมมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น มุมมือกลางที่อยากพัฒนา และมือโปรที่อยากสร้างความน่าเชื่อถือในวงการ UX Design บอกเลยว่ามีแต่ประโยชน์เต็มๆ! 🚀✨
1. คุณไม่ได้แค่ไปฟัง แต่คุณได้ "สังเกตการณ์" โลกแห่ง UX 🎯
การฟัง Keynote ดีๆ ในงาน Design Conference ไม่ได้เป็นเพียงแค่การซึมซับเนื้อหาที่ Speaker นำเสนอ แต่มันคือโอกาสที่คุณจะได้สำรวจ "วิธีคิด" และ "มุมมอง" ของผู้ที่อยู่ในวงการเดียวกัน การสังเกตว่าผู้เชี่ยวชาญระดับโลกแก้ไขปัญหาที่คุณกำลังเจอได้อย่างไร หรือเทรนด์การออกแบบ UX ที่กำลังมาแรงคืออะไร เช่น การใช้ AI ใน UX Design หรือเทคนิคใหม่ๆ ในการวิจัยผู้ใช้
สำหรับมือใหม่:
คุณจะได้เรียนรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญในวงการ UX ที่คุณควรเริ่มต้น และสิ่งที่คุณต้องพัฒนาต่อไป เช่น กระบวนการคิดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Thinking) หรือการใช้เครื่องมืออย่าง Figma และ Miro เพื่อจัดการงาน
สำหรับมือโปร:
ในฐานะผู้มีประสบการณ์ คุณสามารถใช้เวลานี้ในการตรวจสอบว่าวิธีการที่คุณใช้อยู่ในปัจจุบันยังคงมีประสิทธิภาพหรือไม่ หรือมองหาแนวคิดใหม่ๆ ที่สามารถนำกลับไปปรับใช้ในโปรเจกต์ของคุณได้
การสังเกตการณ์ในงานเหล่านี้เหมือนกับการ "เปิดหน้าต่างใหม่" ให้คุณมองเห็นว่าอุตสาหกรรม UX กำลังพัฒนาไปในทิศทางไหน สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเตรียมตัวสำหรับการเปลี่ยนแปลงและก้าวไปพร้อมกับโลกของการออกแบบ UX ที่ไม่หยุดนิ่ง #UXTrends #DesignObservation
2. คุณจะได้ “เครือข่าย” มากกว่าที่คุณคิด 👥
Design Conference คือแหล่งรวมตัวของคนที่หลงใหลใน UX เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น Designer, Researcher, Product Manager หรือแม้แต่ Developer คุณอาจเจอเพื่อนร่วมงานในอนาคต หรือแม้กระทั่ง Mentor ที่สามารถชี้แนะทางให้คุณในอาชีพการงาน
สำหรับมือใหม่:
ถ้าคุณเป็นมือใหม่ การเข้าหาคนใหม่ๆ อาจดูน่ากลัว แต่ลองเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยคำถาม เช่น “คุณเริ่มต้นสายงานนี้อย่างไรคะ?” หรือ “มีคำแนะนำอะไรสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มทำ UX ไหมคะ?” คำถามเหล่านี้อาจนำไปสู่บทสนทนาที่ลึกซึ้ง
สำหรับมือกลางและมือโปร:
นี่คือโอกาสที่คุณจะได้สร้าง Connection ที่มีความสำคัญ เช่น การพบปะ Partner ในโปรเจกต์ถัดไป หรือแม้แต่การหาโอกาสในการทำงานกับบริษัทที่คุณสนใจ
เคล็ดลับการสร้างเครือข่าย:
พกนามบัตรไปเสมอ
เชื่อมต่อกับคนที่คุณเจอใน LinkedIn
อย่าลืม Follow Up หลังงาน
เครือข่ายที่ดีไม่เพียงช่วยคุณในเรื่องโอกาสงาน แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจและช่วยให้คุณมองเห็นมุมมองที่หลากหลายมากขึ้น #Networking #UXCommunity
3. Speaking = อัพโปรไฟล์ของคุณในวงการ UX! 🏆
การพูดในงาน Design Conference ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่คิด สำหรับใครที่อยากสร้างชื่อเสียงในวงการ UX การได้ขึ้นเวทีเป็น Speaker จะช่วยยกระดับโปรไฟล์ของคุณในสายตาของผู้ร่วมงานและอุตสาหกรรม
สำหรับมือใหม่และมือกลาง:
ถ้าคุณยังไม่มีประสบการณ์พูดในที่สาธารณะมาก่อน ลองเริ่มจากงานเล็กๆ เช่น Meetup หรือ Local UX Group งานเหล่านี้มักต้องการ Speaker ใหม่ๆ อยู่เสมอ และเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับฝึกฝน
สำหรับมือโปร:
คุณสามารถใช้โอกาสนี้ในการแชร์ประสบการณ์หรือผลการวิจัยที่คุณได้ทำในโปรเจกต์ เช่น การพัฒนาฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่ม Conversion หรือการแก้ Pain Point ที่ซับซ้อน
ประโยชน์ของการพูด:
สร้างความน่าเชื่อถือ
ขยายเครือข่าย
สร้างโอกาสในการร่วมมือทางธุรกิจ
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในระดับไหน การได้ขึ้นพูดคือการโชว์ทักษะและความหลงใหลของคุณให้โลกได้เห็น และอย่าลืมว่า "คุณไม่จำเป็นต้องรอให้สมบูรณ์แบบ" ก่อนที่จะเริ่มพูดค่ะ! #PublicSpeaking #UXThoughtLeader
4. อย่าคิดว่าคุณยังไม่เก่งพอที่จะพูดในงานใหญ่ 🗣️
ความเชื่อผิดๆ ที่ว่า "ฉันยังไม่เก่งพอ" มักขัดขวาง Designer หลายคนจากการแสดงศักยภาพของตัวเองในงานใหญ่ ความจริงคือ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกเรื่อง เพียงแค่มีมุมมองหรือประสบการณ์ที่น่าสนใจ คุณก็พร้อมแล้ว!
ตัวอย่างหัวข้อที่มือใหม่สามารถเริ่มต้นได้:
“วิธีเริ่มต้น UX สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐาน IT”
“5 เครื่องมือฟรีที่ช่วยให้การทำ UX Research ง่ายขึ้น”
สำหรับมือกลางและมือโปร:
คุณสามารถแชร์ Case Study หรือบทเรียนจากประสบการณ์ที่ล้มเหลวและการแก้ปัญหาในโปรเจกต์
คำแนะนำในการเตรียมตัว:
ฝึกพูดหน้าเพื่อนหรือครอบครัว
ทำสไลด์ให้น่าสนใจและกระชับ
ใช้ Storytelling เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ฟัง
การเป็น Speaker ไม่ได้แปลว่าคุณต้องสมบูรณ์แบบ แค่กล้าก้าวออกมาและแชร์สิ่งที่คุณรู้ นั่นคือการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นแล้วค่ะ! #OvercomeFear #UXSpeaker
5. การตั้งคำถามที่ดี อาจทำให้คุณเป็นที่จดจำในงาน 🧐
การตั้งคำถามในช่วง Q&A อาจฟังดูเล็กน้อย แต่เป็นวิธีที่ดีในการแสดงความสนใจในหัวข้อและสร้างความสัมพันธ์กับ Speaker หรือคนในห้อง
ตัวอย่างคำถามที่ดี:
“มีวิธีใดบ้างที่จะทำให้ UX Design รองรับผู้ใช้ที่มีข้อจำกัดทางการมองเห็น?”
“คุณคิดว่าการออกแบบ UX จะเปลี่ยนไปอย่างไรใน 5 ปีข้างหน้า?”
สำหรับมือใหม่:
อย่ากลัวที่จะถามคำถามง่ายๆ เช่น “คุณแนะนำให้เริ่มต้น UX Research อย่างไร?”
สำหรับมือโปร:
ตั้งคำถามที่ชี้ให้เห็นว่าคุณเข้าใจลึกซึ้งในหัวข้อ เช่น การสอบถามถึงกระบวนการหรือ Framework เฉพาะ
การตั้งคำถามดีๆ ไม่เพียงทำให้คุณเป็นที่จดจำ แต่ยังเปิดโอกาสให้คุณได้สนทนากับผู้เชี่ยวชาญในงานแบบตัวต่อตัวอีกด้วย #QandASkills #BeMemorable
6. รู้จักเทคนิค “Conference Survival” เพื่อไม่พลาดไฮไลต์สำคัญ 🔍
การไปร่วมงาน Design Conference ครั้งแรกอาจทำให้คุณรู้สึกสับสนว่าควรทำอะไรบ้าง โดยเฉพาะถ้างานนั้นใหญ่และมี Session หลายห้องพร้อมกัน การรู้วิธีเตรียมตัวล่วงหน้าจะช่วยให้คุณไม่พลาดหัวข้อสำคัญหรือโอกาสดีๆ ในงาน
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนงาน:
ศึกษา Agenda ล่วงหน้า: ดูว่ามีหัวข้ออะไรที่ตรงกับสิ่งที่คุณสนใจหรือเป็นประโยชน์ต่อโปรเจกต์ปัจจุบันของคุณ
จดเป้าหมาย: ตั้งเป้าว่าต้องการเรียนรู้อะไรหรือใครที่คุณอยากเจอ เช่น Speaker ที่คุณติดตามหรือแบรนด์ที่คุณอยากร่วมงานด้วย
พกของใช้จำเป็น: เช่น Power Bank, สมุดจด หรือบัตรประชาสัมพันธ์ (Business Card)
ระหว่างงาน:
อย่าพยายามเข้าทุก Session เพราะคุณอาจหมดแรง เลือกเฉพาะหัวข้อที่น่าสนใจที่สุด
ใช้เวลาพักเพื่อสร้างเครือข่าย พูดคุยกับผู้ร่วมงานหรือ Speaker
ถ่ายรูป Session Slide ที่น่าสนใจ เพื่อทบทวนภายหลัง
หลังจบงาน:
ทบทวนสิ่งที่เรียนรู้ และเริ่มปรับใช้กับโปรเจกต์ของคุณ
ติดตามคนที่คุณได้เจอใน LinkedIn และส่งข้อความขอบคุณ
การวางแผนและจัดลำดับความสำคัญช่วยให้คุณใช้เวลาในงานได้อย่างคุ้มค่า #ConferenceTips #UXSurvivalGuide
7. งาน Conference = แหล่ง Inspiration ที่ไม่สิ้นสุด 💡
ในงาน Design Conference คุณจะได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการฟังวิธีคิดของ Speaker การดู Demo ของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือการได้พูดคุยกับ Designer จากทั่วโลก ทุกสิ่งเหล่านี้คือโอกาสในการเปิดโลกของคุณ
สำหรับมือใหม่:
ใช้เวลาดูการนำเสนอของ Speaker ที่เก่งๆ เพื่อเรียนรู้วิธีการเล่าเรื่องหรือจัดลำดับความสำคัญ
ถามคำถามเกี่ยวกับเทคนิคที่คุณอยากลองใช้ในโปรเจกต์ของคุณ
สำหรับมือกลางและมือโปร:
คุณอาจได้รับไอเดียใหม่ๆ จาก Case Studies หรือ Showcase ของบริษัทชั้นนำ เช่น การนำ Machine Learning มาปรับใช้ใน UX
ตัวอย่าง:
หากคุณเห็น Speaker นำเสนอเกี่ยวกับการใช้ Behavioral Science ใน UX คุณสามารถนำเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่เรียนรู้ไปลองปรับใช้ในกระบวนการออกแบบของคุณ เช่น การเพิ่ม Nudges เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้คลิกปุ่ม
ข้อดี:
ได้แรงบันดาลใจที่อาจเปลี่ยนวิธีทำงานของคุณ
เรียนรู้จากความสำเร็จและความล้มเหลวของคนอื่น
8. ฝึกการ “ฟัง” ให้ลึกซึ้ง 📖
การฟังในงาน Conference ไม่ใช่แค่การรับข้อมูล แต่คือการเรียนรู้วิธีคิด วิธีเล่าเรื่อง และการเชื่อมโยงประเด็นต่างๆ ของ Speaker ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถนำมาปรับใช้กับงานของคุณได้ทันที
สำหรับมือใหม่:
สังเกตว่า Speaker ใช้ตัวอย่างอะไรในการอธิบาย และวิธีที่เขาเชื่อมโยงไอเดียของเขากับปัญหาในชีวิตจริง
จดโน้ตเกี่ยวกับเทคนิคหรือ Framework ที่เขานำเสนอ
สำหรับมือโปร:
วิเคราะห์ว่าทำไมเนื้อหาของ Speaker ถึงดึงดูดผู้ฟังได้ เช่น การใช้ Visual Aids หรือ Storytelling
ใช้โอกาสนี้เพื่อปรับปรุงวิธีการสื่อสารของคุณเอง
เทคนิค:
ฟังให้ลึกโดยการตั้งคำถามว่า “สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับงานของฉันอย่างไร?” หรือ “ฉันจะนำสิ่งนี้ไปปรับใช้ได้ยังไง?”
ข้อดี:
ช่วยพัฒนาทักษะการฟังเชิงลึก ซึ่งสำคัญต่อการทำ UX Research และการทำงานร่วมกับทีม#ListeningSkills #DeepLearning
9. ตั้งเป้าหมายของการเข้าร่วม Conference ให้ชัดเจน 🎯
สิ่งที่มือใหม่อาจไม่รู้:
การเข้าร่วมงาน Conference จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าถ้าคุณตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น อยากเรียนรู้หัวข้อเฉพาะ หรือสร้างเครือข่าย
สำหรับมือกลาง:
ลองตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับการพัฒนา Career Path เช่น การหา Mentor หรือพูดคุยกับ Speaker ที่คุณติดตาม
สำหรับมือโปร:
ตั้งเป้าหมายเพื่อสร้าง Connection ที่มีผลต่อธุรกิจ เช่น การร่วมมือในโปรเจกต์ระหว่างบริษัท #SetGoals #UXConferenceTips
10. “แชร์สิ่งที่เรียนรู้” เพิ่ม Value ให้ตัวคุณเอง 💬
หลังจากจบงาน Conference สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่เก็บสิ่งที่คุณเรียนรู้ไว้คนเดียว แต่คือการแบ่งปันความรู้ให้กับคนอื่น ซึ่งทำให้คุณกลายเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในวงการ
วิธีการแชร์:
เขียนโพสต์ใน Facebook หรือ LinkedIn เกี่ยวกับสิ่งที่คุณเรียนรู้ เช่น “5 บทเรียนสำคัญจาก Design Conference ปีนี้”
สร้าง Blog Post ที่เล่าถึง Key Takeaways หรือ Case Studies ที่น่าสนใจ
ใช้โอกาสนี้เพื่อสร้าง Personal Brand ในสายงาน UX
สำหรับมือใหม่:
การแชร์สิ่งที่เรียนรู้ช่วยให้คุณเป็นที่รู้จักในชุมชน UX และสร้างโอกาสในการได้รับคำแนะนำจากคนในวงการ
สำหรับมือโปร:
สร้างเนื้อหาที่ลึกซึ้งและ Insightful เช่น การเปรียบเทียบเทคนิคที่คุณใช้อยู่กับเทคนิคใหม่ที่เรียนรู้ในงาน
ข้อดีของการแชร์:
ช่วยให้คุณจดจำสิ่งที่เรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น
สร้างคุณค่าและแรงบันดาลใจให้คนอื่น
สรุป: Design Conference = โอกาสที่คุณไม่ควรพลาด!
ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ มือกลาง หรือมือโปร การไปร่วมงาน Design Conference และการเป็น Speaker คืองานที่เต็มไปด้วยโอกาสใหม่ๆ ที่จะช่วยพัฒนาทั้งตัวคุณและงานของคุณ ลองเปิดใจเข้าร่วมงานหรือแชร์ไอเดียของคุณดู แล้วคุณจะรู้ว่าโลกของ UX มีอะไรอีกเยอะให้คุณได้ค้นหา!
Comments